คุณใช้จ่ายบัตรเครดิตไปกับอะไรเป็นส่วนใหญ่ในแต่ละเดือน

การใช้บัตรเครดิตกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินสำหรับสิ่งที่จำเป็นหรือการเลือกใช้เพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ ที่มาพร้อมกับบัตรแต่ละใบ ความหลากหลายของการใช้จ่ายผ่านบัตรสะท้อนถึงวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน บางคนอาจเห็นบัตรเครดิตเป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการการเงินได้ดี ในขณะที่บางคนอาจมองว่าเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะอาจนำไปสู่การใช้จ่ายเกินตัวได้หากขาดการวางแผน การที่บัตรเครดิตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันยังทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการเงินของคนในยุคนี้ ว่าแท้จริงแล้วคนส่วนใหญ่เลือกใช้บัตรในด้านไหน และอะไรที่ทำให้การใช้บัตรกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม

บทความนี้จะนำเสนอมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิต โดยเน้นไปที่ประสบการณ์และความคิดเห็นที่สะท้อนผ่านการใช้งานจริงจากการพูดคุยในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรในสังคมไทย การทำความเข้าใจในเรื่องนี้ไม่เพียงช่วยให้เห็นถึงความแตกต่างของการใช้เงินในแต่ละคน แต่ยังอาจเป็นแนวทางให้ผู้อ่านนำไปปรับใช้กับการจัดการการเงินส่วนตัวได้อย่างเหมาะสมในอนาคต

เรามักจะใช้จ่ายบัตรเครดิตไปกับอะไรบ้าง

• ค่าใช้จ่ายประจำวัน: ผู้คนใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าอาหาร น้ำมัน และโทรศัพท์ เพราะสะดวกและมีโปรโมชัน เช่น ส่วนลดหรือ cashback บัตรที่นิยม เช่น KBANK - PPT BLUE CREDITCARD และ GSB - VISA PRECIOUS
• ช้อปปิ้งออนไลน์: การซื้อของใน Shopee, Lazada หรือเว็บต่างประเทศเป็นที่นิยม เฉลี่ยไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน ชอบบัตรที่มี cashback หรือแต้ม เช่น KTC และ SCB
• การท่องเที่ยว: ใช้จองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม เหมาะกับคนเดินทางบ่อย เช่น ปีละ 2 ครั้ง บัตรแนะนำ เช่น JCB PLATINUM และ Citi Rewards เพื่อสะสมแต้ม
• ผ่อนสินค้า: ใช้ผ่อนโน้ตบุ๊ก ไอแพด หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงค่ารถและบ้านเมื่อเงินสดไม่พอ แต่ต้องวางแผนดีเพื่อไม่ให้เกินตัว
• บริการดิจิตอล: ผูกบัตรกับ subscription เช่น Netflix, Youtube Premium หรือ PlayStation Network บางคนใช้บัตรวงเงินต่ำแยกเพื่อความปลอดภัย
• ความหลากหลายตามไลฟ์สไตล์: บางคนถือบัตรหลายใบ (เกือบ 30 ใบ) ใช้ตามโปรโมชัน เช่น AMEX ของ BBL หรือ KTC - UNIONPAY บางคนใช้แค่ 1% ของวงเงินเพื่อสะสมแต้ม
• มุมมองต่อการใช้บัตร: เห็นประโยชน์ถ้าจ่ายเต็มและมีวินัย ได้โปรโมชันและแต้ม แต่บางคนไม่ใช้เพราะกลัวหนี้ การเลือกบัตรขึ้นอยู่กับรายได้และไลฟ์สไตล์

ค่าใช้จ่ายประจำวัน

การใช้บัตรเครดิตในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องที่พบเห็นบ่อย โดยเฉพาะกับค่าใช้จ่ายพื้นฐานอย่างอาหาร น้ำมัน และโทรศัพท์ ผู้คนมักเลือกวิธีนี้เพราะความง่ายในการจ่ายเงิน รวมถึงโอกาสที่จะได้รับส่วนลดหรือเงินคืนจากโปรโมชันต่างๆ เช่น การเติมน้ำมันที่ปั๊ม ซึ่งบางบัตรมอบสิทธิพิเศษให้ทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายในหมวดนี้ ค่าร้านอาหารก็เป็นอีกส่วนที่คนนิยมใช้บัตร เพราะบางครั้งมีข้อเสนอที่น่าสนใจ เช่น ลดราคาหรือสะสมคะแนนเพิ่มเติม ค่าโทรศัพท์รายเดือนก็ถูกนำมาผูกกับบัตรเพื่อให้การชำระเงินเป็นไปได้ง่ายขึ้น การใช้งานในลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นว่าบัตรเครดิตกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน โดยเฉพาะเมื่อมีโปรโมชันที่จูงใจให้เลือกใช้มากกว่าการจ่ายด้วยเงินสด คนที่ใช้บัตรในส่วนนี้มักมองว่าเป็นวิธีที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น โดยไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก และยังได้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษที่ตามมาด้วย บางคนถึงกับวางแผนการใช้จ่ายในหมวดนี้เพื่อให้ได้คะแนนสะสมหรือเงินคืนสูงสุดเท่าที่จะทำได้ การเลือกบัตรที่เหมาะกับการใช้จ่ายประจำวันจึงกลายเป็นสิ่งที่คนให้ความสำคัญ เพื่อให้ทุกการรูดบัตรคุ้มค่ามากที่สุด

ช้อปปิ้งออนไลน์

การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มอย่าง Shopee หรือ Lazada รวมถึงเว็บไซต์จากต่างประเทศ ผู้คนมักใช้บัตรเครดิตในการจ่ายเงินสำหรับการช้อปปิ้งเหล่านี้ เพราะมีโปรโมชันที่ให้ส่วนลดหรือคะแนนพิเศษ บางคนเผยว่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท โดยมักเป็นการซื้อของชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตั้งแต่ 100 ถึง 300 บาทต่อครั้ง การเลือกบัตรที่มีเงินคืนหรือคะแนนสะสมสูงจึงเป็นที่ต้องการสำหรับกลุ่มที่ชื่นชอบการซื้อของออนไลน์ บางครั้งการใช้จ่ายในหมวดนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนกลายเป็นส่วนสำคัญของงบประมาณรายเดือน การเลือกบัตรที่เหมาะสมจึงต้องพิจารณาถึงข้อเสนอที่ให้ประโยชน์สูงสุดเมื่อใช้ในแพลตฟอร์มออนไลน์ ผู้ที่ซื้อของบ่อยๆ มักมองหาบัตรที่ให้ส่วนลดเพิ่มเติม หรือมีโปรโมชันพิเศษในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น วันลดราคาใหญ่ การใช้งานในลักษณะนี้ยังช่วยให้ติดตามการใช้จ่ายได้ง่าย เพราะทุกอย่างถูกบันทึกผ่านบัตร ทำให้เห็นภาพรวมว่าเงินถูกใช้ไปกับอะไรบ้างในแต่ละเดือน ความนิยมในหมวดนี้ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการจับจ่ายที่หันมาเน้นช่องทางดิจิตอลมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบัตรเครดิตกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการทำให้การซื้อของออนไลน์ง่ายและคุ้มค่ามากขึ้น

การท่องเที่ยว

การใช้บัตรเครดิตเพื่อการท่องเที่ยวนับเป็นอีกหมวดที่คนให้ความสนใจ โดยเฉพาะการจองตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรม ผู้ที่เดินทางบ่อยๆ เช่น ปีละสองครั้ง มักเลือกวิธีนี้เพราะช่วยให้การจัดการค่าใช้จ่ายเป็นไปได้สะดวก และยังได้คะแนนสะสมที่สามารถนำไปแลกสิทธิพิเศษในอนาคต บัตรบางใบถูกแนะนำให้ใช้ในต่างประเทศ เช่น บัตรที่เหมาะกับการใช้ในญี่ปุ่น หรือบัตรที่ให้คะแนนสูงเมื่อจองบริการท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ การจ่ายเงินสำหรับทริปต่างประเทศด้วยบัตรยังช่วยลดความจำเป็นในการพกเงินสดจำนวนมาก ซึ่งเป็นเหตุผลที่คนเลือกใช้ในหมวดนี้ การสะสมคะแนนจากการจองที่พักหรือตั๋วเครื่องบินยังเป็นเป้าหมายของผู้ที่วางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพราะคะแนนเหล่านี้สามารถนำไปใช้ลดค่าใช้จ่ายในทริปถัดไปได้ ความนิยมในหมวดนี้แสดงให้เห็นว่าบัตรเครดิตไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับการใช้จ่ายทั่วไป แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนท่องเที่ยวให้คุ้มค่ามากขึ้น ผู้ที่ใช้บัตรในส่วนนี้มักคำนึงถึงประเภทของบัตรที่ให้ประโยชน์สูงสุดเมื่อใช้ในต่างประเทศ หรือเมื่อจองผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยว การเลือกบัตรที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับเป้าหมายการเดินทางและความถี่ในการออกทริปของแต่ละคน

ผ่อนสินค้า

การผ่อนชำระสินค้าด้วยบัตรเครดิตเป็นทางเลือกที่คนใช้เมื่อต้องการซื้อของที่มีราคาสูง เช่น โน๊ตบุ๊ค ไอแพด หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน บางคนเล่าว่าเลือกวิธีนี้เมื่อเงินสดในมือไม่เพียงพอ เช่น ซื้อโน้ตบุ๊กให้ลูกเรียนหนังสือ การผ่อนค่ารถหรือบ้านบางส่วนก็ถูกนำมาจัดการด้วยบัตรเช่นกัน แต่หลายคนเตือนว่าต้องมีการวางแผนที่ดีเพื่อไม่ให้ใช้จ่ายเกินตัว การผ่อนสินค้าช่วยให้แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ซึ่งลดภาระทางการเงินในระยะสั้น แต่ถ้าขาดการควบคุมอาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สินได้ ผู้ที่ใช้บัตรในหมวดนี้มักมองว่าเป็นวิธีที่ช่วยให้เข้าถึงสิ่งของจำเป็นได้ทันเวลา โดยไม่ต้องรอเก็บเงินครบก่อน การเลือกบัตรที่มีดอกเบี้ยต่ำหรือโปรโมชันผ่อน 0% จึงเป็นสิ่งที่คนให้ความสำคัญ ความนิยมในหมวดนี้ยังแสดงถึงความยืดหยุ่นที่บัตรเครดิตมอบให้ แต่ก็มาพร้อมกับคำแนะนำให้ใช้อย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระในระยะยาว การใช้งานในลักษณะนี้เหมาะกับคนที่ต้องการจัดการค่าใช้จ่ายใหญ่ โดยยังคงรักษาสภาพคล่องทางการเงินไว้ได้ในแต่ละเดือน

บริการดิจิตอล

การจ่ายค่าบริการดิจิตอลเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะการสมัครสมาชิกแอปพลิเคชันจากต่างประเทศ เช่น Netflix, Youtube Premium หรือ PlayStation Network ผู้คนมักผูกบัตรเครดิตกับบริการเหล่านี้เพื่อชำระเงินรายเดือน บางคนเลือกใช้บัตรที่มีวงเงินต่ำแยกออกมา เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากข้อมูลบัตรรั่วไหล การใช้งานในหมวดนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตที่พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มักไม่สูงมาก แต่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน ทำให้บัตรเครดิตกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการการชำระเงินได้ดี ผู้ที่ใช้บัตรในหมวดนี้มักคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งาน และเลือกบัตรที่เหมาะกับการจ่ายเงินข้ามประเทศ การเติบโตของบริการดิจิตอลยังทำให้หมวดนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้จ่ายประจำสำหรับคนที่ทำงานหรือใช้ชีวิตผ่านช่องทางออนไลน์ การเลือกบัตรที่ให้ประโยชน์เมื่อใช้ในหมวดนี้จึงเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

มุมมองต่อการใช้บัตร

ผู้คนมีความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิต บางกลุ่มมองว่าเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ หากรู้จักควบคุมการใช้จ่าย เช่น การจ่ายยอดเต็มเพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย และใช้ประโยชน์จากคะแนนสะสมหรือโปรโมชันต่างๆ การเลือกบัตรที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ เช่น เน้นเงินคืนหรือส่วนลด จึงเป็นสิ่งที่คนคำนึงถึง แต่ในทางกลับกัน บางคนไม่นิยมใช้บัตร เพราะกังวลเรื่องหนี้สินหรือไม่ต้องการพึ่งพาระบบเครดิต การใช้บัตรอย่างมีวินัยถูกยกเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้การใช้จ่ายผ่านบัตรเป็นไปในทางที่ดี บางคนถึงกับถือบัตรหลายใบเพื่อใช้ตามโอกาส เช่น บัตรที่ให้สิทธิพิเศษในร้านค้าเฉพาะ หรือบัตรที่ออกแบบมาให้ดูสวยงาม ความหลากหลายของมุมมองนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้บัตรเครดิตขึ้นอยู่กับรายได้ เป้าหมาย และการจัดการทางการเงินของแต่ละคน การตัดสินใจใช้หรือไม่ใช้จึงเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่สะท้อนถึงวิธีการบริหารเงินในชีวิตประจำวัน

การใช้บัตรอย่างมีระเบียบ

การใช้บัตรเครดิตอย่างมีระเบียบเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงิน ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการใช้บัตรมักจ่ายยอดเต็มทุกเดือน เพื่อไม่ต้องเสียดอกเบี้ยที่อาจเพิ่มขึ้นจากการจ่ายขั้นต่ำ การวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้าก็เป็นวิธีที่ช่วยให้ควบคุมงบประมาณได้ดี เช่น การกำหนดว่าในแต่ละเดือนจะใช้บัตรในวงเงินเท่าใด และใช้กับอะไรบ้าง บางคนแยกบัตรตามประเภทการใช้จ่าย เช่น บัตรใบหนึ่งสำหรับเติมน้ำมัน อีกใบสำหรับซื้อของออนไลน์ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าเงินถูกใช้ไปในส่วนไหน การติดตามยอดใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้รู้ทันว่าใกล้ถึงขีดจำกัดหรือยัง ผู้ที่ระวังเรื่องหนี้สินมักไม่ใช้บัตรเกินกว่ารายได้ที่มี เพื่อป้องกันการเป็นหนี้สะสมที่จัดการยากในภายหลัง การใช้บัตรในปริมาณที่เหมาะสม เช่น เพียง 1% ของวงเงินที่มี ยังช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและไม่กดดัน บางคนถึงกับตั้งเป้าว่าจะใช้บัตรเพื่อสะสมคะแนนเท่านั้น โดยไม่มองว่าเป็นแหล่งเงินกู้ การรักษาวินัยในลักษณะนี้ยังช่วยให้ได้ประโยชน์จากโปรโมชันต่างๆ เช่น ส่วนลดร้านอาหารหรือเงินคืนจากการเติมน้ำมัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ตามมา ความระมัดระวังในการใช้บัตรยังรวมถึงการหลีกเลี่ยงการผ่อนสินค้าที่ไม่จำเป็น เพราะถึงแม้จะช่วยให้ซื้อของได้ทันที แต่ถ้าไม่วางแผนดีอาจกลายเป็นภาระ การใช้บัตรอย่างมีระเบียบจึงเป็นแนวทางที่ทำให้บัตรเครดิตกลายเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ แทนที่จะเป็นสิ่งที่นำปัญหามาให้