การเลือกบัตรเครดิตประเภทแคชแบคที่เหมาะสมนั้น จำเป็นต้องพิจารณาว่าคุณใช้จ่ายในหมวดหมู่ใดบ้าง บัตรเครดิตแต่ละประเภทให้สิทธิประโยชน์แตกต่างกันไปตามรูปแบบการใช้ชีวิต หากคุณทานอาหารนอกบ้านเป็นประจำ เติมน้ำมันบางครั้ง รวมถึงผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสินค้าอื่นๆ เป็นบางโอกาส บัตรแคชแบคจะช่วยให้คุณได้รับเงินคืนจากรายจ่ายเหล่านี้
ข้อควรคำนึงอีกประการคือเรื่องค่าธรรมเนียมรายปี หลายคนมองหาบัตรที่ไม่มีค่าธรรมเนียมตลอดชีพ หรือมีเงื่อนไขการยกเว้นค่าธรรมเนียมที่ไม่ยุ่งยาก ความซับซ้อนของเงื่อนไขในการรับเงินคืนก็เป็นปัจจัยสำคัญ หากต้องลงทะเบียนหลายขั้นตอนหรือมีข้อจำกัดมากเกินไป อาจทำให้เสียโอกาสในการรับเงินคืน การเข้าใจพฤติกรรมการใช้จ่ายและความคาดหวังจากบัตรเครดิตจะช่วยให้คุณเลือกบัตรที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
เปรียบเทียบบัตรเครดิตแคชแบคยอดนิยม
บัตร UOB One เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเงื่อนไขการรับแคชแบคที่ไม่ซับซ้อน บัตรนี้ให้เงินคืนตั้งแต่บาทแรกโดยไม่มีขั้นต่ำของยอดใช้จ่าย คุณจะได้รับเงินคืน 10% เมื่อใช้จ่ายที่รถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT รวมถึงคาเฟ่อเมซอน ได้รับ 5% เมื่อใช้จ่ายที่ 7-Eleven, Grab และร้านวัตสัน และ 1% สำหรับยอดใช้จ่ายทั่วไปอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษในการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ในราคา 1 แถม 1 ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ บัตร UOB One ฟรีค่าธรรมเนียมในปีแรก และในปีถัดไปหากมียอดใช้จ่ายไม่ถึง 60,000 บาทต่อปี ก็สามารถขอยกเว้นค่าธรรมเนียมได้โดยง่าย ใช้เวลาอนุมัติประมาณ 7-10 วันทำการไม่รวมวันหยุด
ส่วนบัตร First Choice จะเน้นไปที่การให้เงินคืน 1.5% แต่มีเงื่อนไขว่าต้องมียอดใช้จ่ายครบ 4,000 บาทต่อเดือน หากใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์ จะไม่ได้รับแคชแบคใดๆ เลย ข้อดีของบัตรนี้คือการทราบผลอนุมัติเร็ว ภายใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหากไม่มีปัญหา การลงทะเบียนสามารถทำผ่านแอปพลิเคชันได้ และยิ่งมียอดใช้จ่ายสูง แคชแบคก็จะยิ่งมากขึ้น บัตรนี้มีโปรโมชั่นย่อยเยอะ ยอดเติมน้ำมันจะถูกนับรวมในยอด 4,000 บาท แต่ยอดเดลิเวอรี่จะไม่ถูกนับรวม สำหรับการเติมน้ำมั จะได้รับเป็นคะแนนสะสมแทนเงินคืน บัตร First Choice ได้รับการชื่นชมในเรื่องระบบความปลอดภัย มีการตรวจสอบรายการใช้จ่ายที่ผิดปกติและติดต่อลูกค้าทันที สำหรับบัตร TTB So Smart เป็นบัตรที่มีการใช้งานง่าย แต่ข้อเสียคือต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์เงินคืนจากการเติมน้ำมัน ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับบางคน และก็ยังมี Aeon Union Pay ที่ได้รับเงินคืน 1% สำหรับยอดใช้จ่ายในประเทศ แต่ผู้ใช้บางคนอาจไม่ค่อยชอบระบบของ Aeon
กลยุทธ์การเลือกบัตรให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
ในความเป็นจริง ไม่มีบัตรใบใดใบหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการได้ 100% วิธีที่มีประสิทธิภาพคือการใช้หลายใบควบคู่กันตามประเภทการใช้จ่าย สำหรับการทานอาหารนอกบ้าน บัตรออมสินเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะให้เงินคืน 5% เมื่อมียอดใช้จ่ายรวมครบ 3,000 บาทต่อเดือน
ส่วนการเติมน้ำมันมีหลายตัวเลือก เช่น KTC PTT ที่ให้เงินคืน 3.5%, UOB Premiere ที่ให้ 3% เมื่อเติมที่ Caltex หรือ Shell, Lotus ที่ให้ 3% เมื่อเติมที่บางจาก และ TTB ที่ให้ 3% เมื่อเติมที่บางจากหรือ Caltex สำหรับการผ่อนสินค้า First Choice เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเพราะมีโปรโมชั่นผ่อน 0%
อย่างไรก็ดี หากคุณต้องการบัตรที่มีเงื่อนไขไม่ยุ่งยากและไม่ต้องลงทะเบียนมากมาย บัตร UOB One น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะให้เงินคืนตั้งแต่บาทแรก มีอัตราแคชแบคที่น่าพอใจในหลายหมวดหมู่ และมีการสรุปยอดแคชแบคคืนทุกรอบบัญชี ไม่ต้องรอนาน 60-90 วันเหมือนบัตรอื่น
เลือกบัตรตามช่องทางการช้อปปิ้ง
นอกจากการพิจารณาตามประเภทการใช้จ่ายแล้ว การเลือกบัตรตามช่องทางการช้อปปิ้งก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง สำหรับผู้ที่ช้อปปิ้งออนไลน์เป็นหลัก บัตร Nextgen, Primo และ RLP เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ขณะที่ผู้ที่ใช้จ่ายหน้าร้านหรือออฟไลน์เป็นส่วนใหญ่ บัตร UOB One, TMRW และ RLP จะเหมาะสมกว่า การเลือกบัตรให้เหมาะกับพฤติกรรมการช้อปปิ้งจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้บัตรเครดิต
การวางแผนการใช้บัตรอย่างรอบคอบและเข้าใจเงื่อนไขอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณได้รับเงินคืนอย่างเต็มที่ เช่น หากเลือกใช้บัตร First Choice ควรวางแผนให้มีการใช้จ่ายครบ 4,000 บาทในแต่ละเดือน เพื่อให้ได้รับสิทธิ์แคชแบค หรือหากเลือกบัตร UOB One ควรใช้จ่ายในหมวดหมู่ที่ให้เงินคืนสูง เช่น รถไฟฟ้า คาเฟ่อเมซอน 7-Eleven หรือ Grab เพื่อรับประโยชน์สูงสุด
ระยะเวลาการอนุมัติบัตรเครดิต
ระยะเวลาการอนุมัติเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการใช้บัตรเครดิตอย่างเร่งด่วน บัตร First Choice โดดเด่นในด้านนี้ด้วยเวลาอนุมัติเพียง 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหากเอกสารครบถ้วนและไม่มีปัญหาใดๆ ในขณะที่บัตร UOB One ใช้เวลาอนุมัตินานกว่า โดยทั่วไปประมาณ 7-10 วันทำการไม่รวมวันหยุด ซึ่งหากคุณวางแผนใช้บัตรเพื่อการซื้อสินค้าหรือบริการในเร็ววัน ควรพิจารณาเรื่องระยะเวลาการอนุมัตินี้เป็นหลัก บางธนาคารอาจมีบริการเร่งด่วนพิเศษสำหรับลูกค้าเดิม หรือผู้ที่มีประวัติเครดิตดี ควรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากธนาคารผู้ออกบัตรโดยตรง
ค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขการยกเว้น
รายละเอียดเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขการยกเว้นของแต่ละบัตรมีความแตกต่างกัน บัตร UOB One มีค่าธรรมเนียมฟรีในปีแรก และในปีถัดไปหากมียอดใช้จ่ายไม่ถึง 60,000 บาทต่อปี สามารถขอยกเว้นค่าธรรมเนียมได้โดยง่าย ซึ่งถือว่าเป็นเงื่อนไขที่ไม่ยากเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไป บัตรบางใบอาจมีเงื่อนไขยุ่งยากกว่า เช่น ต้องมียอดใช้จ่ายสูงมาก หรือต้องใช้บริการอื่นๆ ของธนาคารร่วมด้วยจึงจะได้รับการยกเว้น การพิจารณาค่าธรรมเนียมควรนับเป็นต้นทุนในการใช้บัตร และเปรียบเทียบกับเงินคืนที่คาดว่าจะได้รับว่าคุ้มค่าหรือไม่
สรุปคำแนะนำสำหรับบัตรเครดิตประเภทแคชแบค
- First Choice: มีเงื่อนไขว่าต้องมียอดใช้จ่ายรวม 4,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปถึงจะได้รับเงินคืน โดยจะได้รับเงินคืน 1.5% และมีโปรโมชั่นย่อยค่อนข้างเยอะ และหากมียอดใช้จ่ายที่ไม่ถึง 4000 จะไม่ได้รับเงินคืน เติมน้ำมันได้คะแนนสะสม ยอดเดลิเวอรี่ไม่รวมยอดสะสม และสามารถผ่อน 0% ได้
- บัตรเครดิตออมสิน: คืนเงิน 5% สำหรับการกินข้าวเมื่อใช้ยอดรวมครบ 3,000 บาทต่อเดือน
- บัตรเครดิต KTC PTT, UOB Premiere Caltex, Shell, Lotus บางจาก, TTB บางจาก, Caltex: คืนเงิน 3-3.5% สำหรับการเติมน้ำมัน
- Aeon Union Pay: ได้รับเงินคืน 1% สำหรับยอดใช้จ่ายในประเทศ แต่ผู้ใช้บางคนอาจไม่ค่อยชอบระบบของ Aeon
- UOB One: ได้รับเงินคืน 10% สำหรับรถไฟฟ้า MRT/BTS และ Cafe Amazon, 5% สำหรับ 7-Eleven, Grab และ Watsons, 1% สำหรับยอดใช้จ่ายอื่นๆ โดยไม่มีเงื่อนไขยุ่งยาก และคืนเงินทุกรอบบัญชี สามารถยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีได้หากใช้จ่ายไม่ถึง 60,000 บาทต่อปี
- คนส่วนใหญ่มักแนะนำบัตร UOB One เป็นบัตรเครดิตแคชแบคใบแรก เนื่องจากเงื่อนไขไม่ซับซ้อน ได้รับเงินคืนตั้งแต่บาทแรก และสามารถยกเว้นค่าธรรมเนียมได้ง่าย แต่หากเน้นการผ่อน 0% อาจพิจารณาบัตร First Choice เพิ่มเติม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น