การเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมสำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มอย่าง Shopee ถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา เพราะตัวเลือกมีเยอะจนบางครั้งตัดสินใจยาก บทความนี้นำเสนอข้อมูลที่รวบรวมมา เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดเจนเกี่ยวกับบัตรเครดิตแต่ละใบที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายใน Shopee โดยเน้นที่ความคุ้มค่าและเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการได้เงินคืนหรือคะแนนสะสม รวมถึงข้อจำกัดที่อาจเจอในแต่ละบัตร บทความนี้แบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆ เพื่อให้เข้าใจง่าย และหวังว่าจะช่วยให้ผู้อ่านตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อต้องเลือกบัตรเครดิตสำหรับการซื้อของใน Shopee โดยไม่ต้องเสียเวลาค้นหาข้อมูลจากหลายที่ให้วุ่นวาย การเดินทางในหัวข้อต่อไปนี้จะพาไปดูรายละเอียดที่จำเป็นทั้งหมดอย่างครอบคลุม
การใช้บัตรเครดิตกับ Shopee
การช้อปปิ้งใน Shopee กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทยที่นิยมซื้อของออนไลน์ และบัตรเครดิตกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้จ่าย Shopee เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่ของราคาถูกไปจนถึงสินค้าราคาสูง ทำให้ยอดใช้จ่ายต่อครั้งแตกต่างกันไป บัตรเครดิตบางใบจึงถูกออกแบบมาให้เหมาะกับยอดใช้จ่ายเฉพาะ เช่น ยอดต่ำหรือยอดสูง ซึ่งส่งผลต่อการคำนวณเงินคืนและคะแนนสะสม
เงินคืนและคะแนนสะสมคืออะไร
เงินคืนและคะแนนสะสมเป็นสองสิ่งที่บัตรเครดิตส่วนใหญ่ นำเสนอ เงินคืนคือการที่ธนาคารคืนเงินเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดใช้จ่าย เช่น 5% ซึ่งมักจะโอนเข้าบัญชีหรือหักจากยอดบิลในรอบถัดไป ส่วนคะแนนสะสมคือแต้มที่ได้จากการใช้จ่าย เช่น 20 บาทได้ 1 คะแนน หรือคะแนน x5 ตามยอดซื้อ ซึ่งต้องนำไปแลกเป็นส่วนลดหรือของรางวัลต่อไป ความแตกต่างนี้ทำให้บางคนชอบเงินคืนมากกว่า เพราะเห็นผลทันที ขณะที่คะแนนสะสมอาจต้องใช้เวลาสะสมและคำนวณมูลค่าก่อนใช้งาน การรู้จักสองระบบนี้ช่วยให้เข้าใจว่าทำไมบัตรบางใบถึงเหมาะกับการใช้จ่ายใน Shopee มากกว่าบัตรอื่น
ความสำคัญของยอดใช้จ่ายต่อบิล
ยอดใช้จ่ายต่อบิลเป็นตัวกำหนดว่าบัตรเครดิตใบไหนจะให้ประโยชน์สูงสุดเมื่อช้อปใน Shopee จากข้อมูล บัตรบางใบกำหนดขั้นต่ำ เช่น 300 หรือ 500 บาทต่อบิล เพื่อให้ได้เงินคืนหรือคะแนนตามเงื่อนไข ถ้ายอดใช้จ่ายต่ำกว่านี้ อาจไม่ได้อะไรเลย ทำให้คนที่ซื้อของราคาไม่สูงต้องมองหาบัตรที่ไม่มีขั้นต่ำ ส่วนคนที่ใช้จ่ายเยอะต่อครั้ง เช่น 1,000 บาทขึ้นไป จะได้เปรียบจากบัตรที่ให้วงเงินคืนสูงสุดเยอะ การแยกยอดใช้จ่ายแบบนี้ช่วยให้เห็นว่าบัตรแต่ละใบเหมาะกับพฤติกรรมการซื้อของแบบไหนใน Shopee และทำให้การเลือกบัตรตรงกับความต้องการมากขึ้น
บัตรเครดิต Shopee KBank
คงต้องยอมรับว่าสิทธิประโยชน์ที่ได้จากบัตรนี้ดูไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ ค่าจัดส่งก็ไม่ฟรีตามที่เคยหวังไว้ บางครั้งรู้สึกสงสัยในความคุ้มค่าของมันเหมือนกัน สิ่งที่ได้ส่วนใหญ่มีแค่คะแนนสะสม ซึ่งเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้ไม่มาก การแลกคูปองใน K Shop ของ Shopee เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น การเอาแต้มไปแลกเงินคืน โดยใช้ 100 คะแนนแลกได้ 10 บาทผ่าน K Plus ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า ขั้นตอนการแลกก็ไม่ยุ่งยาก ถ้าเอาแต้มไปใช้กับร้านที่ไม่รับคูปองปกติของ Shopee ช่วยลดราคาได้บ้าง แต่คำนวณดูแล้ว ถ้าใช้จ่าย 5,000 บาท ได้ 1,000 คะแนน แลกได้ 150 บาท คิดเป็น 3% หรือใช้ 1,000 บาท ได้ 3,000 คะแนน แลกได้ 450 บาท คิดเป็น 4.5% ซึ่งยังดูน้อยเมื่อเทียบกับบัตรอื่น
บัตรตระกูล Aeon
ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับการช้อปใน Shopee อย่างมาก Aeon Next Gen ให้เงินคืน 5% เมื่อใช้จ่ายขั้นต่ำ 500 บาท สูงสุด 20,000 บาทต่อเดือน หรือเงินคืนสูงสุด 1,000 บาทต่อรอบบิล เหมาะกับยอดใช้จ่ายสูง Aeon Primo ให้เงินคืน 5% ทุก 300 บาท สูงสุด 600 บาทต่อรอบบิล เหมาะกับยอดใช้จ่ายปานกลาง เช่น 300-499 บาท Aeon Rabbit ให้เงินคืน 3% ขั้นต่ำ 1,000 บาท สูงสุด 1,000 บาทต่อรอบบิล พร้อมคะแนนสะสม 20 บาทต่อ 1 คะแนน ส่วน Aeon UPI ให้เงินคืน 1% ไม่มีขั้นต่ำ สูงสุด 3,000 บาทต่อรอบบิล Aeon Next Gen, Rabbit และ Primo ดูจะครอบคลุมทุกช่วงราคา แต่ถ้ายอดต่ำกว่า 300 บาทอาจไม่คุ้ม การใช้ Aeon Next Gen สำหรับยอด 500 บาทขึ้นไป และต่อด้วย Aeon Primo สำหรับยอด 300 บาท ช่วยให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากบัตรตระกูลนี้
UOB กับการช้อปใน Shopee
บัตรในตระกูล UOB ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน UOB World เหมาะกับยอดใช้จ่ายไม่ถึง 300-500 บาท เพราะได้คะแนน x5 เมื่อช้อปออนไลน์ สูงสุด 4,000 คะแนนต่อรอบบิล และส่วนเกินได้ x2 เหมาะกับยอดเล็กๆ 100-700 บาท การเปลี่ยนจาก Shopee KBank มาใช้ UOB World ดูเป็นไอเดียที่น่าลอง UOB Preferred ให้เงินคืน 15% สูงสุด 200 บาท ไม่มีขั้นต่ำ แต่จำกัด 15 ร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมสูงสุด 3,000 บาทต่อเดือน UOB PVM ได้คะแนนใน Shopee หรือ Lazada ตามปกติ UOB One ให้เงินคืน 1% สูงสุด 2,000 บาทต่อรอบบิล และ 5% สำหรับยอดออนไลน์ เซเว่น Grab และ Watsons การใช้ UOB World คู่กับ Premier ก็เป็นอีกทางเลือก โดย Premier ได้ x4 ในโซนห้าง และ x2 นอกนั้น บัตรในตระกูล UOB ดูจะเหมาะกับคนที่ใช้จ่ายยอดเล็กๆ ใน Shopee
ตัวเลือกอื่น
นอกจาก Aeon และ UOB แล้ว KCC Now หรือ Krungsri Now ให้เงินคืน 5% ขั้นต่ำ 500 บาทต่อบิล สูงสุด 300 บาทต่อเดือน เหมาะกับคนที่ต้องการเงินคืนทันที ICBC Any และ Krungsri Now ก็เป็นบัตรที่น่าสนใจ Shopee SPayLater ดูเหมือนจะให้วงเงินสูง ผ่อน 0% ได้ 5 เดือน บางครั้งอาจผ่อนของราคา 50 บาท 5 เดือนแบบขำๆ TTB Absolute ได้คะแนน x2 ถ้าซื้อออนไลน์ แต่ไม่แน่ใจว่า Shopee นับไหม มีตารางเปรียบเทียบบัตรต่างๆ ที่ช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น Krungsri Now ดูคุ้มกว่า Shopee KBank ถ้ายอดต่ำกว่า 300 บาท การใช้ Lazada หรือ TikTok Shop โดยผูกกับ Line Pay หรือ Alipay เพื่อลดราคาซ้ำซ้อนก็เป็นทางเลือกที่น่าคิด
การเลือกบัตรตามยอดใช้จ่าย
การเลือกบัตรขึ้นอยู่กับยอดใช้จ่ายใน Shopee โดย Aeon Primo เหมาะกับยอด 300-499 บาท และ Aeon Next Gen เหมาะกับยอด 500 บาทขึ้นไป แต่ถ้ายอดต่ำกว่า 300 บาทยังต้องหาทางเลือกเพิ่ม Shopee KBank อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย UOB Preferred ดูน่าสนใจสำหรับยอดต่ำกว่า 300 บาท TMRW เป็นอีกตัวเลือกที่เข้ามาในความคิด ถ้าเคยใช้ Shopee KBank ตอนมี K Point Day ได้คะแนน 8 เท่า แต่ตอนนี้แต้มแลกแพงขึ้น ถ้ายอดใช้จ่ายสูง Aeon Next Gen ดูดีสุด ถ้ายอดกลางๆ Aeon Primo ตอบโจทย์ และถ้ายอดต่ำ UOB Preferred หรือ UOB World ดูจะเหมาะสมที่สุด
ความแตกต่างระหว่างเงินคืนและคะแนนสะสม
จะเห็นว่า Shopee KBank ให้คะแนนสะสม ซึ่งบางครั้งคำนวณแล้วได้เพียง 3-4.5% เมื่อแลกเป็นเงินคืน แต่บัตรอย่าง Aeon Next Gen และ KCC Now ให้เงินคืน 5% โดยตรง สูงสุด 1,000 และ 300 บาทตามลำดับ การได้เงินคืนแบบนี้ดูน่าสนใจกว่า เพราะเห็นผลทันที ไม่ต้องรอแลกอะไรเพิ่ม UOB World ให้คะแนน x5 ซึ่งสูงสุด 4,000 คะแนนต่อรอบบิล แต่ต้องคำนวณต่อว่าคะแนนนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่เมื่อใช้จริง Aeon Primo ก็ให้เงินคืน 5% ทุก 300 บาท สูงสุด 600 บาท แถมมีคะแนนสะสม 20 บาทต่อ 1 คะแนน การเลือกบัตรที่มีทั้งเงินคืนและคะแนนอาจดูน่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้สองอย่างพร้อมกัน แต่ถ้าเน้นความง่าย เงินคืนแบบ Krungsri Now ที่ได้สูงสุด 300 บาทต่อเดือน ดูจะเหมาะกับคนที่ใช้จ่ายใน Shopee บ่อยๆ และไม่อยากยุ่งยากกับการคำนวณคะแนน
ทางเลือกสำหรับยอดใช้จ่ายต่ำกว่า 300 บาท
ถ้ายอดใช้จ่ายใน Shopee ต่ำกว่า 300 บาท บัตรอย่าง Aeon Primo หรือ Next Gen อาจไม่คุ้ม เพราะต้องใช้ขั้นต่ำ 300 และ 500 บาทตามลำดับ UOB Preferred ดูน่าสนใจด้วยเงินคืน 15% สูงสุด 200 บาท ไม่มีขั้นต่ำ แต่จำกัด 15 ร้านค้า รวมสูงสุด 3,000 บาทต่อเดือน UOB World ก็เป็นอีกทางเลือกที่ให้คะแนน x5 ไม่มีขั้นต่ำ เหมาะกับยอดเล็กๆ 100-700 บาท SPayLater ถูกพูดถึงว่าให้วงเงินสูง ผ่อน 0% ได้ 5 เดือน ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากจ่ายทีหลังมากกว่าต้องใช้บัตรเครดิตทันที Lazada หรือ TikTok Shop ที่ผูกกับ Line Pay หรือ Alipay ก็ช่วยลดราคาได้อีกขั้นสำหรับยอดต่ำๆ แม้จะไม่ใช่ Shopee โดยตรง แต่ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ TMRW ถูกเสนอมาแบบสั้นๆ แต่ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม ตัวเลือกเหล่านี้เหมาะกับคนที่ซื้อของราคาไม่สูงใน Shopee
บัตรที่เน้นการใช้งานหลากหลายแพลตฟอร์ม
บัตรบางใบไม่ได้จำกัดแค่ Shopee เช่น UOB One ที่ให้เงินคืน 1% สูงสุด 2,000 บาทต่อรอบบิล และ 5% สำหรับยอดออนไลน์ เซเว่น Grab และ Watsons ซึ่งครอบคลุมการใช้จ่ายหลายที่ TTB Absolute ให้คะแนน x2 ถ้าซื้อออนไลน์ แต่ยังไม่ชัดว่า Shopee นับด้วยไหม UOB Preferred ให้เงินคืน 15% สูงสุด 200 บาท ใน 15 ร้านค้าที่ร่วมรายการ ซึ่งอาจรวม Lazada ด้วย Aeon UPI ให้เงินคืน 1% สูงสุด 3,000 บาทต่อรอบบิล ไม่มีขั้นต่ำ ใช้ได้ทุกที่ รวมถึง Shopee การใช้บัตรที่ยืดหยุ่นแบบนี้เหมาะกับคนที่ช้อปหลายแพลตฟอร์ม ไม่ได้ยึดแค่ Shopee อย่างเดียว Lazada ที่ผูกกับ Line Pay ก็ถูกแนะนำสำหรับยอดต่ำกว่า 300 บาท ซึ่งช่วยให้ลดราคาได้มากขึ้น บัตรเหล่านี้ดูจะเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายมากกว่า Shopee KBank ที่เน้นแค่คะแนนใน Shopee
หากต้องการใช้จ่ายใน Shopee เป็นหลัก และกำลังมองหาบัตรเครดิตที่ให้สิทธิประโยชน์สูงสุด มีตัวเลือกได้แก่
บัตรเครดิตที่ให้ Cashback สูง
Aeon Next Gen: ได้เงินคืน 5% (สูงสุด 1,000 บาท/เดือน) ต้องมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 500 บาท
Aeon Primo: ได้เงินคืน 5% (สูงสุด 600 บาท/เดือน) ต้องมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 300 บาท
KCC Now: ได้เงินคืน 5% (สูงสุด 300 บาท/เดือน) ต้องมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 500 บาท
ICBC Any: เป็นอีกตัวเลือกที่ได้รับเงินคืน
บัตรเครดิตที่ให้แต้มสะสมสูง
UOB World: ให้คะแนนสะสม X5 เมื่อใช้จ่ายออนไลน์ (ไม่มียอดขั้นต่ำ)
UOB Preferred: ได้เงินคืน 15% (สูงสุด 200 บาท/เดือน) ไม่มีขั้นต่ำ แต่จำกัดแค่ 15 ร้านค้า และคืนสูงสุด 30 บาทต่อครั้ง
UOB One: ได้เงินคืน 1% (สูงสุด 2,000 บาท/รอบบิล) และ Shopee, 7-11, Grab, Watsons ได้คืน 5%
เปรียบเทียบบัตร Shopee KBank กับตัวเลือกอื่น
- เห็นว่าบัตร Shopee KBank ไม่ค่อยคุ้ม เพราะให้แค่ K Point ซึ่งใช้แลกเป็นเครดิตเงินคืนได้เรท 100 คะแนน = 10 บาท
- Shopee KBank มีโปร X5/X10 เฉพาะยอดใช้จ่ายตามเงื่อนไข เช่น 10,000 บาทขึ้นไปถึงจะได้คะแนนเพิ่ม
- อาจจะเปลี่ยนไปใช้บัตรที่ได้เงินคืนหรือแต้มคุ้มค่ากว่า
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
- หากยอดใช้จ่ายต่ำกว่า 300 บาท แนะนำให้ใช้บัตร UOB World หรือเลือกช้อปผ่าน Lazada/TikTok Shop ที่มีโปรเสริม
- ถ้าต้องการบัตรที่ให้ Cashback ได้ง่ายและรวดเร็ว กรุงศรี Now เป็นอีกตัวเลือกที่คืนเงิน 5% เมื่อยอดใช้จ่ายเกิน 500 บาท (สูงสุด 300 บาท/เดือน)
- หากต้องการแต้มสะสมสำหรับใช้แลกของ ควรเลือก UOB World ที่ให้ X5 หรือ Shopee KBank หากสะสม K Point เป็นหลัก
หากต้องการใช้บัตรที่คุ้มค่ากับการช้อป Shopee มากที่สุด ควรเลือก Aeon Next Gen หรือ UOB World แทน Shopee KBank เพราะให้ Cashback และแต้มสะสมที่ดีกว่า โดย Aeon Next Gen คุ้มสุดสำหรับ Cashback และ UOB World คุ้มสุดสำหรับการสะสมแต้ม ใช้ร่วมกับบัตรอื่นตามเงื่อนไขขั้นต่ำเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น